คน และการจัดการภายใน ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อความสำเร็จ หรือล้มเหลวในองค์การ
เขียนโดย ทองพันชั่ง พงษ์วารินทร์ วันที่เขียน 2 เมษายน 2558 Email:tpongvarin@yahoo.com www.bt-training.com Mobile.089-8118340
สวัสดีครับทุกท่านสัปดาห์ก่อนผมได้มีโอกาสไปบรรยายหลักสูตรการบริหารคุณภาพทั่วทั้งองค์การ หรือ TQM (Total Quality Management) ให้กับบริษัทผลิตชิ้นส่วนรถยนต์แห่งหนึ่งระหว่างบรรยาย และดำเนินกิจกรรมกลุ่มจึงเกิดแนวคิด จึงนำมาแลกเปลี่ยนครับ
การแข่งขันทางธุรกิจในปัจจุบันมีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น จะสังเกตได้จากตามสื่อต่างๆ พบกว่า ธุรกิจบางประเภทเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วทำกำไรอย่างมากมาย เป็นกอบเป็นกำ ตรงกันข้ามกับธุรกิจบางประเภทที่ขาดทุน และต้องปิดกิจการไปอย่างน่าเสียดาย ซึ่งทั้งๆที่ในอดีตบริษัทเหล่านั้นมีกำไรสูง และมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากประสบการณ์ที่ผ่านมา รวมทั้งจากการที่ได้ศึกษาจากตำหรับตารามามากมาย ทำให้สามารถยืนยันได้เลยว่า ปัจจัยเรื่องการบริหารงานบุคคล ถือเป็นปัจจัยหนึ่งที่สำคัญที่จะส่งผลทำให้ธุรกิจของเราเจริญเติบโต หรือยั่งยืนต่อไปในปัจจุบัน และอนาคต
การดำเนินกิจกรรมการผลิต (production) และการบริการ (service) เป็นกิจกรรมที่เพิ่มมูลค่า (value added) ให้กับปัจจัยที่เราใส่เข้าไป เพื่อให้ได้สินค้า หรือบริการที่ตรงตามแบบ หรือ สเป็ค (spec) ที่เรากำหนดไว้ตั้งแต่ก่อนที่จะเริ่มการผลิต หรือให้บริการนั่นเอง สำหรับปัจจัยพื้นฐานในการดำเนินธุรกิจส่วนใหญ่จะประกอบด้วย เงินทุน (money) คน (men) เครื่องจักร และอุปกรณ์ (machine tools and equipment) วัตถุดิบ (material) ระบบการบริหารจัดการ (management) ซึ่งรวมถึงวิธีการปฏิบัติงาน (method) และสภาพแวดล้อมในการปฏิบัติงาน
จากการเปรียบเทียบผลลัพธ์ในการปฏิบัติางานด้าน ปริมาณ และคุณภาพ และผลกำไร หรือขาดทุนของ บริษัทที่มีเงินทุน เทคโนโลยี และเครื่องจักรใกล้เคียงกัน หรือแทบจะเหมือนกัน จะพบว่า คน และการบริหารจัดการภายในองค์การ คือ ปัจจัยสองปัจจัยหลัก ที่สำคัญที่ส่งผลทำให้เกิดความแตกต่างกัน ซึ่งเปรียบเทียบได้ดังตาราง
หัวข้อ
|
บริษัทที่ที่ด้อยกว่า
|
บริษัทที่ดีกว่า
|
1. การบริหารทรัพยากรมนุษย์
|
- ไม่ให้ความสำคัญ
|
- ให้ความสำคัญมาก
|
2. การคัดเลือกพนักงาน
|
- ไม่มีระบบคัดเลือกพนักงาน
|
- มีระบบการคัดเลือก และสัมภาษณ์งานอย่างมีรูปแบบ
|
3. ค่าจ้าง เงินเดือน และสวัสดิการ
|
- อยู่ในระดับปานกลาง
|
- มีการปรับค่าจ้างอยู่ในระดับต้นๆของกลุ่มอุตสาหกรรมเดือนวกัน
|
4. การพัฒนาพนักงาน
|
- จัดอบรมตามที่พนักงานร้องขอ หรือตามข้อกำหนดของลูกค้า หรือกฏหมายแรงงาน
|
- จัดแผนการพัฒนาพนักงานแต่ละคน และจัดกิจกรรมส่งเสริมการปรับปรุง และพัฒนาพนักงานอย่างต่อเนื่อง
|
5. การบริหารจัดการภายในองค์การ
|
- มีลำดับขั้นตอนมาก และมีความซ้ำซ้อน ทำให้เสียเวลา และสิ้นเปลืองทรัพยากรมาก
|
- ลำดับขั้นตอนน้อย และมีความยืดหยุ่น ใช้เวลาน้อย และใช้ทรัพยากรน้อยกว่า
|
6. การปรับปรุง และพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
|
- ไม่มี เน้นเฉพาะการทำงานประจำวัน
|
- จัดกิจกรรมการปรับปรุง และพัฒนาอย่างต่อเนื่อง และมีการส่งเสริมให้พนักงานได้นำเสนอแนวคิดเพื่อการปรับปรุงงาน และมีการประกวดแข่งขันประจำปี เช่น กิจกรรม 5ส.QCC Kaizen Theme Achievement Idea Suggestion เป็นต้น
|
จากการเปรียบเทียบผลลัพธ์พบว่า งานลักษณะเดียวกัน บริษัทที่มีระบบการบริหารจัดการที่ดีกว่าจะใช้เวลา และจำนวนพนักงานน้อยกว่า แต่ผลลัพธ์ของงานจะมีประสิทธิภาพ และประสิทธิผลมากกว่าบริษัทที่มีระบบบริหารจัดการที่ด้อยกว่า ซึ่งผมคิดว่าอาจเป็นเพราะ “พนักงานที่มีคุณภาพ คือ มีความรู้ และประสบมากกว่า กรอปกับการได้รับเงินเดือน และสวัสดิการที่สูงกว่า จึงส่งผลทำให้พวกเขาทำงานได้ดีกว่า” ซึ่งก็สอดคล้องกับทฤษฎีการบริหารทรัพยกรมนุษย์ที่หลายๆท่านเคยศึกษาอย่างไรก็ดี จริงๆแล้วทั้งสองบริษัทอาจมีอะไรที่ผมไม่ทราบอีกมากก็เป็นได้ สุดท้าย ขอฝากให้ท่านลองทบทวน ว่าบริษัทของท่านมีวิธีการบริหารจัดการอย่างไร แล้วลองนำไปปรับปรุงดูนะครับ ………