กลยุทธ์ คิดแบบไทย ทำแบบไทย ยังไงก็สำเร็จ
โดย ทองพันชั่ง พงษ์วารินทร์ Email:tpongvarin@yahoo.com Mobile:089-8118340
สวัสดีครับทุกท่าน บทความนี้ผมได้แนวคิดมากจากการที่ผมได้อ่านนิตยสาร Forbes Thailand ฉบับเดือนมกราคม 2559 เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับความสำเร็จในการเลือกใช้กลยุทธ์คิดแบบไทย ทำแบบไทย ให้ถูกที่ ถูกเวลา จนประสบความสำเร็จครับ
ผมรู้สึกประทับใจกับกลยุทธ์ของร้านค้าท้องถิ่นที่มีชื่อว่า “ธนพิริยะ” ที่สามารถบริหารจัดการ และพัฒนาต่อสู้กับคู่แข่งรายใหญ่จนทำให้ธุรกิจการของเขาเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากคำกล่าวที่ว่า “การเป็นร้านค้าท้องถิ่นที่เคยเป็นจุดอ่อน ตอนนี้กลายเป็นจุดแข็ง แล้วเอาจุดอ่อนของเขา มาเป็นจุดแข็งของเรา นี่คือ โมเดลที่สร้างขึ้นมาใหม่เป็นโมเดลคนไทย เพราะเราคิดแบบคนไทย”
ในหนังสือ Competitive Strategy เที่เขียนโดย ศาสตราจารย์ Michael E. Porter แห่ง Harvard Business School ได้ให้นิยามของคำว่ากลยุทธ์ (Strategy) ไว้ดังนี้
“กลยุทธ์ (Strategy) คือ วิธีทาง หรือแนวทางที่ถูกกำหนดขึ้น
เพื่อการระดมและจัดการทรัพยากร เพื่อช่วยให้บรรลุถึงเป้าหมาย”
ถ้าเรามาเปรียบเทียบกับกลยุทธ์ที่บริษัทแห่งนี้ใช้แล้ว บอกได้เลยครับว่า เป็นสุดยอดกลยุทธ์ที่แท้จริง เพราะกลยุทธ์นั้นไม่ได้เป็นแค่แนวคิด หรือหลักการสวยหรู ดูดี ดูทันสมัย ใช้เครื่องมือที่เป็นสากลนิยม แต่กลยุทธ์ที่ดีนั้นต้องเป็นกลยุทธ์ที่ปฏิบัติได้จริง เห็นผลจริง และผลลัพธ์นั้นก็เป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ ซึ่งส่วนใหญ่ก็คือ กำไร (profit) ส่วนแบ่งการตลาด (market share) และการเติบโต (growth) อย่างต่อเนื่องขององค์การ
สิ่งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความสามารถในการคิด วิเคราะห์ และตกผลึกความคิดจนกลายมาเป็นกลยุทธที่ใช้งานได้จริงๆ จากแนวคิดนี้ผมขอนำมาวิเคราะห์และนำเสนอ แนวคิดในการกำหนดกลยุทธ์เพื่อความความสำเร็จ ขององค์การ ดังนี้
1. ค้นหาข้อมูลตามความเป็นจริง องค์การต้องมีความสามารถในการเลือกใช้ข้อมูลต่างๆ ทั้งสภาพแวดล้อมภายนอก เช่น สภาพเศรษฐกิจ สังคม การเมือง การใช้ชีวิต ภาษา วัฒนธรรม หรือข้อมูลของคู่แข่ง เพื่อวิเคราะห์ และสภาพแวดล้อมภายในสังเคราะห์ จุดแข็ง (strengths) จุดอ่อน (weaknesses) โอกาส (opportunities) อุปสรรค (treats) ความสามารถหลักขององค์การ (core competency) ประกอบกัน แล้วจัดทำกลยุทธ์ เป็นต้น
2. ปรับตัวทันสถานการณ์ องค์การควรปรับวิธีการดำเนินงานจากที่เคยเป็นจุดอ่อน มีข้อจำกัด ปัญหา อุปสรรค ให้กลายมาเป็นจุดแข็งได้อย่างทันเวลา ไม่ปล่อยให้จุดอ่อน กลายเป็นจุดอ่อน แล้วก็อ่อนไปเรื่อยๆ จนปรับตัวไม่ทัน
3. เลือกกลยุทธ์ที่เหมาะสมที่สุด ซึ่งก็คือ กลยุทธ์ที่ ถูกที่ ถูกเวลา ถูกกับลูกค้าในท้องถิ่น หรือสถานที่นั้นๆ
4. มีความคิดสร้างสรรค์ โดยควรหาวิธีใหม่ๆ บ้าง ไม่ใช่แต่จะทำตามวิธีการเดิมๆ หรือทำตามคู่แข่ง
5. เรียนรู้คู่แข่งอย่างลึกซึ้ง จะเห็นว่าเขาสามารถที่จะค้นหาจุดอ่อนของคู่แข่ง
6. ตอบสนองเหนือความต้องการของลูกค้า การทำให้ลูกค้ารู้สึกว่า เราเข้าใจเขา และสิ่งที่เรามอบให้กับลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นสินค้าที่มีคุณภาพ ตรงกับความต้องการ มีให้เลือกหลากหลาย ราคาที่เหมาะสม การบริหารที่อบอุ่น เป็นกันเองเหมือนญาติมิตร และการบริการหลังการขายที่รวดเร็ว ซึ่งสิ่งที่ทำมาทั้งหมด ทำให้ลูกค้าประทับใจ และมีความสุข ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะทำให้บริษัทของเราแตกต่างจากคู่แข่งอย่างแน่นอน
ขอชื่นชม และขอบคุณคณะผู้บริหาร “ธนพิริยะ” ที่นำสิ่งดีๆ มาให้ผมได้เรียนรู้ครับ สุดท้ายของฝากคมคิดสะกิดใจ “กลยุทธ์การศึก รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้ง ชนะร้อยครั้ง กลยุทธ์การค้า รู้จักลูกค้า รู้จักตัวเรา ยังไงๆ ก็ประสบความสำเร็จ” โชคดีครับ...