ขงเบ้ง สอน 7 ข้อ “เปลี่ยนคนธรรมดา ให้กลายเป็นผู้นำที่ยิ่งใหญ่”

โดย ทองพันชั่ง พงษ์วารินทร์ Email:tpongvarin@yahoo.com Mobile:089-8118340

facebook: Thongpunchang Pongvarin , BT-Corporation

.............................................................................

 สวัสดีครับทุกท่าน บทความตอนนี้เรามาเรียนรู้หลักการพัฒนาตนเองจากปราชญชาวจีน ผู้มีชื่อเสียงก้องโลกกันนะครับ สัปดาห์ก่อนผมได้มีโอกาสไปบรรยายหลักสูตรการสร้างจิตสำนึกคุณภาพ และการสร้างนวัตกรรมในการทำงาน ด้วยหลักของ KAIZEN และ PDCA ในระหว่างบรรยายผมได้แลกเปลี่ยนแนวคิดว่า ผู้นำ หรือหัวหน้างานคือผู้ที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อความสำเร็จทั้งในเรื่องการทำงาน และการดำเนินกิจกรรมปรับปรุงงานต่างๆ ดังนั้นหัวหน้างานต้องเรียนรู้ที่จะพัฒนาตนเอง เพื่อเป็นสุดยอดผู้นำที่ลูกน้องศรัทธา เพราะเมื่อลูกน้องมีความศรัทธาในตัวเราแล้วไม่ว่าจะสั่งหันไปทางไหน ลูกน้องก็ทำตามอย่างถูกต้อง ด้วยความเต็มใจ จึงขอนำแนวคิดในการพัฒนาภาวะผูนำมาแลกเปลี่ยนครับ

 นิสัยอย่างหนึ่งที่ทำให้คนเราประสบความสำเร็จล้นฟ้า และล้มเหลวต่ำเตี้ย เรี่ยดิน คือ “การฝึกฝนตนเอง” มีหนังสือเล่มหนึ่งเขียนเอาไว้ว่า คนที่จะประสบความสำเร็จในทุกอาชีพ ทั้งนักธุรกิจ นักกีฬา นักเขียน นักดนตรี จิตกร ต้องทำสิ่งนั้นอย่างน้อย 10,000 ชั่วโมง ซึ่งเรื่องการฝึกฝน พัฒนาตนเองนั้นเป็นเรื่องที่สำคัญที่ทุกคนรู้ ซึ่งเราต้องมุ่งมั่น ตั้งใจ ที่จะเอาชนะใจตนเอง เพื่อทำในสิ่งที่ถูกต้อง ต้องผ่านปัญหา อุปสรรค ความยุ่งยาก ท้อแท้ใจ ต้องขจัดความขี้เกียจ ซึ่งเรื่องนี้หลายท่านทราบดีอยู่แล้ว แต่ก็มีอีกหลายท่านที่ได้แต่รู้ และไม่เคยลงไม่ลงมือทำกันจริงๆ จังๆ จึงทำให้ชีวิตยังไปไม่ถึงไหน

วันนี้ผมมีแนวคิดเรื่อง การฝึกฝนตนเอง จากหนังสือ สรรพนิพนธ์ขงเบ้ง ยุทธศิลป์ แปลโดย โชติช่วง นาดอน ของสำนักพิมพ์ ชุมศิลป์ธรรมดา มาแลกเปลี่ยน โดยขงเบ้งผู้ที่มีชื่อเสียงโด่งดังด้านการศึกในตำนานสามก๊ก ซึ่งมีประวัติยาวนานนับพันปี เป็นต้นแบบของอัจฉริยะด้านการรบ ซึ่งชื่อเสียงของเขา ยังได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของคนที่มีปัญญาเฉียบแหลม ซึ่งท่านได้ให้แนวคิดที่น่าสนใจในการพัฒนาตนเอง เพื่อก้าวสู่ผู้นำที่ประสบความสำเร็จว่า

 

ฝึกฝนตนเอง

“อริยะเมธีน้อมตามวิธีแห่งฟ้า ผู้ปรีชาน้อมตามวิธีแห่งดิน ผู้ทรงภูมิปัญญาน้อมจินต์ถือจริยธรรมโบราณ (อันได้แก่)

·         อวดทนง เย่อหยิ่ง ย่อมชักนำวินาศมาสู่

·         ระห่ำ มุทะลุ คือ บ่มเพาะวิบัติภัย

·         มากถ้อยพล่อยคำไป คนเสื่อมถอยความศรัทธา

·         บำเรอรักษาปัจเจกตน ล้ำนักจัก ไม่มีใครรู้บุญคุณ

·         ปูนบำเน็จแก่ผู้ปราศจากความดี ความชอบ ใจคนก็จะถือออกห่าง

·         ใส่โทษลงอาญา ต่อผู้บริสุทธิ์หาความผิดบ่มิได้ ใจคนจักแค้นเคือง

·         สำแดงเรื่องเกลียดโกรธ เรื่องชอบ เรื่องสนุก ผิดกาละเทศะ จะพินาศ แลนา”

 ผมเห็นด้วยโดยปราศจากข้อแม้ เพราะนี่คือแนวคิดในการพัฒนา ฝึกฝนตนเอง ที่ถูกต้อง และยังคงทันสมัย แม้จะผ่านร้อน ฝ่ายหนาว มานับเป็นพันๆ ปี ลองทบทวนดูนะครับว่า ข้อใดที่เราทำได้ดีแล้วเราก็พัฒนาให้ดียิ่งขึ้น ส่วนข้อใดที่เรายังทำได้ไม่ดีนัก เราก็รีบปรับปรุงให้ดีขึ้น ลองนำไปประยุกต์ใช้ดูนะครับ รับรอง ท่านจะเป็นผู้นำที่ สั่งลูกน้องได้ดั่งใจแน่นอน สุดท้ายขอฝากคมคิดสะกิดใจว่า “พัฒนาตนเอง เมื่อวานนี้ ดีกว่าพัฒนาตนเองในวันนี้ และพัฒนาตนเองวันนี้ ดีกว่าพัฒนาตนเองวันพรุ่งนี้” อย่ารอช้า การพัฒนาตนเอง ไม่มีใครทำให้เราได้ และต้องใช้เวลา เริ่มเสียแต่วินาทีนี้เลยนะครับ

ท่านสามารถอ่านบทความที่น่าสนใจอื่นๆ ได้ที่ www.bt-training.com

Facebook/fanpage: Thongpunchang Pongvarin , BT-Corporation