Easy 7QC Tools เครื่องมือที่ 4 ฮีสโตแกรม (Histogram) (ตอนที่ 1)
โดย ทองพันชั่ง พงษ์วารินทร์ Email:tpongvarin@yahoo.com Mobile:089-8118340
facebook: Thongpunchang Pongvarin , BT-Corporation
**********************************************************************************************
สวัสดีครับทุกท่าน หลังจากที่เราได้เรียนรู้ แผ่นตรวจสอบ (check sheet) กราฟ (graph) และพาเรโต้ (pareto) ในตอนนี้เราจะมาเรียนรู้ เครื่องมือที่ 4 คือ ฮีสโตแกรม (histogram) กันต่อเลยนะครับ
ฮีสโตรแกรม (Histogram) หรือ แผนภูมแท่งลำดับการกระจาย เป็นเครื่องมือที่เหมาะสมกับการใช้งานของข้อมูลที่สามารถวัดได้ในเชิงปริมาณ เช่น ความยาว น้ำหนัก ความหนา แนวคิดที่สำคัญของฮีสโตรแกรม คือ 1. ข้อมูลมีการกระจายตัว แนวโนน้มเข้าสู่ศูนย์กลาง หรือค่ามาตรฐานที่เรากำหนด และ 2. ขอบเขตการกระจายตัวของข้อมูลที่เกิดขึ้น ซึ่งอาจมีความผันผวน หรือมีค่าที่ไม่เท่ากัน ซึ่งความไม่เท่ากันนั้นอาจมีสาเหตุมาจากหลายปัจจัย เช่นเกิดจากปัจจัยการผลิต วัตถุดิบ พนักงาน เครื่องจักร หรือสภาพแวดล้อม เช่น อุณภูมิ ความชื้น ในการปฏิบัติงาน เป็นต้น
ยกตัวอย่างจากรูปด้านซ้ายมือ น้ำหนักมาตรฐานในการบรรจุที่เรากำหนดไว้คือ 10 กรัม แต่เป็นเรื่องยากที่เราจะทำให้สินค้ามีน้ำหนักเท่ากันทุกกล่อง ดังนั้น เราจึงอาจจะมีค่าที่ยอมรับได้ คือ อาจจะต่ำกว่า หรือสูงกว่า ค่าที่เรากำหนดไว้ เล็กน้อย ยกตัวอย่าง เช่น จากตัวอย่าง มาตรฐานที่เรากำหนดไว้คือ 10 กรัม เรา อาจมีค่า ± 0.5 กรัม ดังนั้นน้ำหนักของที่บรรจุในกล่องจะต้องอยู่ระหว่าง 9.5 ถึง 10.5 กรัม ซึ่งถ้าหากน้ำหนักสินค้าที่เราบรรจุน้อยกว่า 9.5 กรัม หรือมากกว่า 10.5 กรัมแล้วละก็สินค้าที่ผลิตนั้นก็จะถือว่าเป็นสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐาน ซึ่งต้องทำการแก้ไข ซึ่งเราต้องเสียเวลา เสียวัตถุดิบ เสียค่าแรงงาน ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายส่วนเพิ่มที่ไม่ควรจะเสีย
ถ้าหากเราพิจารณาจากรูปด้านขวามือจะพบว่ามีกราฟอยู่ 4 เส้น ซึ่งได้มาจากการคำนวนค่าเฉลี่ย โดยกราฟแต่ละเส้นเกิดจากการวัดค่าที่ได้จากตัวอย่างที่เรานำมาเป็นตัวแทนของสินค้าทั้งหมด หรือสุ่มมา ซึ่งอธิบายได้ดังนี้
กราฟเส้นที่ 1 เส้นยอดเยี่ยม เพราะ น้ำหนักของสินค้าที่เราเก็บรวบรวมมานั้นอยู่ในมาตรฐานทั้งหมดทุกกล่อง ซึ่งกราฟเส้นนี้คือความฝันของการผลิตสินค้า เพราะไม่มีของเสียเกิดขึ้นเลย
กราฟเส้นที่ 2 เส้นเริ่มแย่ เพราะ น้ำหนักของสินค้าส่วนใหญ่อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน แต่มีบางส่วนเท่านั้นไม่ได้มาตรฐาน ซึ่งเราต้องรีบปรับปรุงแก้ไขมิเช่นนั้นอาจจะกลายไปเป็นเหมือนกราฟเส้นที่ 3
กราฟเส้นที่ 3 เส้นครึ่งๆ กลางๆ เพราะ น้ำหนักสินค้าครึ่งหนึ่งอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน และอีกครึ่งหนึ่งเป็นสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐาน ซึ่งถ้าไม่รีบแก้ไข จะกลายเป็นเหมือนกราฟเส้นที่ 4
กราฟเส้นที่ 4 เส้นหายนะ เพราะ น้ำหนักสินค้าส่วนใหญ่ไม่ได้มาตรฐาน โดยมีเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน
เป็นอย่างไรบ้างครับ สินค้าของท่านส่วนใหญ่ เหมือนกับกราฟแบบใด ลองทบทวนกันดูนะครับ สำหรับบทความในตอนนี้เรามาเรียนรู้กันเรื่องการกระจายของข้อมูล ซึ่งเป็นแนวคิดพื้นฐานที่สำคัญของฮีสโตแกรมกันก่อน สำหรับบทความตอนหน้าเราจะมาเรียนรู้ขั้นตอนการจัดทำฮีสโตรแกรมกันทั้งหมดเลย ติดตามอ่านตอนต่อไปนะครับ
ท่านสามารถอ่านบทความที่น่าสนใจอื่นๆ ได้ที่ www.bt-training.com
Facebook/fanpage: Thongpunchang Pongvarin , BT-Corporation