วาทะเด็ดของ มหาชนกกุมาร และ เอดิสัน เรื่องความเพียร
โดย ทองพันชั่ง พงษ์วารินทร์ Email:tpongvarin@yahoo.com Mobile:089-8118340
facebook: Thongpunchang Pongvarin , BT CORPORATION CO., LTD. , Thongpunchang
สวัสดีครับทุกท่านบทความในตอนที่แล้วเราได้เรียนรู้เกี่ยวกับการสร้างตนเองให้เป็นคนมีวินัยกันไปแล้วนะครับ สำหรับบทความตอนนี้เราจะได้เรียนรู้เรื่องราวเกี่ยวกับอานุภาพของความเพียร พร้อมแล้วเรามาเรียนรู้กันเลยนะครับ
“ความเกียจคร้านทำลายอนาคต ความขยันสร้างอนาคต”
แต่บางคนก็รู้อยู่เต็มอก รู้อยู่เต็มใจ แต่ก็ยังขี้เกียจอยู่ ลองนึกภาพนะครับ ถ้าหากเราเป็นคนขี้เกียจ คนในครอบครัวของเราเป็นคนขี้เกียจ คนในหมู่บ้านของเราก็ขี้เกียจ และถ้าคนทั้งประเทศของเราส่วนใหญ่เป็นคนขี้เกียจ ประเทศชาติอันเป็นที่รักยิ่งของเราจะเป็นอย่างไร? เราคนไทยทุกคนมาร่วมกันขจัดเจ้าผีขี้เกียจ ด้วยการสร้างความเพียร ซึ่งในหลวงรัชกาลที่ 9 ท่านทรงสอนเราไว้ สำหรับความเพียรที่ผมได้เรียนรู้ จากส่วนหนึ่งของพระราชนิพนธ์เรื่องพระมหาชนก ของพระองค์ท่าน (ฉบับการ์ตูน ที่เขียนโดย ชัย ราชวัตร) โดยพระราชนิพนธ์เรื่องพระมหาชนก เป็นหนังสือที่ดีที่สุดเล่มหนึ่งในประเทศ ซึ่งผมคิดว่าสมควรอย่างยิ่งที่คนไทยทุกคนควรอ่าน และนำมาแนวคิดมาใช้ในการดำรงค์ชีวิต ซึ่งผมขอนำการสนทนาระหว่างนางมณีเมขลา กับพระมหาชนก ซึ่งว่ายน้ำหลังจากเรือแตกมาแล้ว 7 วัน
นางมณีเมขลา “นี่ใคร เมื่อแลไม่เห็นฝั่งก็ยังอุตสาหพยายามว่ายอยู่ท่านกลางมหาสมุทร ท่านรู้อำนาจประโยชน์อะไร จึงพยายามว่ายอยู่อย่างนี้นักหนา”
มหาชนกกุมาร “ดูก่อนเทวดา เราว่ายข้ามมหาสมุทรมาได้เจ็ดวัน เราไตร่ตรองเห็นปฏิปทานแห่งโลก และอานิสงส์แห่งความเพียรฉะนั้น ถึงจะมองไม่เห็นฝัง เราก็ต้องพยายามว่ายอยู่ท่ามกลางมหาสมุทร”
นางมณีเมขลา “ฝั่งมหาสมุทร ลึกจนประมาณไมได้ ย่อมไม่ปรากฎแก่ท่าน ความพยายามอย่างลูกผู้ชายของท่านก็เปล่าประโยชน์ ท่านไม่ทันถึงฝั่งก็จะตาย”
มหาชนกกุมาร “บุคคลเมื่อกระทำความเพียร แม้จะตายก็ชื่อว่าไม่เป็นหนี้ในระหว่างหมู่ญาติ เทวดา และบิดา มารดา อนึ่งบุคคลเมื่อทำกิจอย่างลูกผู้ชาย ย่อมไม่เดือดร้อนในภายหลัง”
นางมณีเมขลา “การงานอันใด ยังไม่ถึงที่สุดด้วยความพยายาม การงานอันนั้นก็ไร้ผล มีความลำบากเกิดขึ้น การทำความพยายามในฐานะอันไม่สมควรใด จนความตายปรากฏขึ้น ความพยายามในฐานะอันไม่สมควรนั้นจะไม่มีประโยชน์อะไร”
เพื่อตอกย้ำพลังของความเพียรผมขอแถมเรื่องความเพียรอีกเรื่องนะครับ เรื่องนี้เป็นของโทมัส อันวา เอดิสัน เป็นที่ทราบกันทั่วโลกว่า เขาคือ คนแรกของโลกที่ประดิษหลอดไฟทำให้โลกสว่างในยามค่ำคืนมาจนถึงทุกวันนี้ ซึ่งเขาต้องใช้ความเพียรพยายามและความอดทนทดสอบ และทดลองหลายพันๆ ครั้ง กว่าจะสำเร็จ
วันนี้ เอดิสัน ตอบนักข่าวที่มาสัมภาษณ์ถึงความลับของความสำเร็จ
นักข่าว “การประดิษฐ์สิ่งต่างๆ ของท่านนั้นเกิดจากปฎิภาณอันเฉียบแหลมของท่านเอง หรือความคิดเหล่านั้นมาสู่สมองของท่านในขณะที่ท่านนอนลืมตาโพลงบนที่นอนในเวลากลางคืน”
เอดิสัน “ข้าพเจ้าไม่เคยทำสิ่งใดที่มีค่าได้สำเร็จโดยบังเอิญเลยแม้แต่ชิ้นเดียว เมื่อข้าพเจ้าตัดสินใจเด็ดขาดว่าสิ่งใดจึงจะได้รับผลสำเร็จที่มีค่ายิ่งแล้ว ข้าพเจ้าก็จะตั้งหน้าตั้งตาทำในสิ่งนั้น และพยายามทดลองแล้วทดลองเล่าจนกว่าผลสำเร็จจะบังเกิดขึ้น”
รู้อย่างนี้แล้วรีบกำจัดเจ้าผีขี้เกียจ เพื่ออนาคตของตัวเรา และประเทศของเรากันเถอะครับสุดท้ายขอฝากคมคิดสะกิดใจที่ว่า “ความสำเร็จวัดกันที่ผลลัพธ์ของงาน ไม่ใช่ที่ความคิดเพียงอย่างเดียว” ขอเป็นกำลังใจให้พี่น้องชาวไทยของเราทุกๆคนนะครับ .....