ผู้นำที่ยั่งยืน ในยุค อุตสาหกรรม 4.0
โดย ทองพันชั่ง พงษ์วารินทร์ Email:tpongvarin@yahoo.com Mobile:089-8118340
facebook: Thongpunchang Pongvarin , BT-CORPORATION CO., LTD.
********************************************************************************************
สวัสดีครับทุกท่าน บทความที่ผมนำเสนอในตอนนี้ขอนำเสนอแนวคิดที่ได้มาจากการอ่านหนังสือ “เป็นผู้นำอย่างไรให้ยั่งยืน” หรือ “LEADERSHIP SUSTAINABILITY” เขียนโดย DAVE ULICH และ NORM SMALLWOOD จากการศึกษาในหัวข้อ “ภาวะผู้นำที่ยั่งยืน” ผมคิดว่าเป็นประโยชน์ต่อหัวหน้างาน ผู้จัดการ และผู้บริหารทุกท่าน (รวมทั้งตัวผมด้วย) เป็นอย่างมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคอุตสาหกรรม 4.0 คือ การเปลี่ยนผ่านจากการใช้แรงงานจำนวนมาก ไปสู่ยุคข้อมูลข่าวสาร เปลี่ยนจากการใช้คนจำนวนมากๆ มาใช้เครื่องจักร เทคโนโลยี และระบบที่ทันสมัย ทำให้ใช้คนเหลือคนทำงานเพียงไม่กี่คน แต่กลับมีประสิทธิภาพ ประสิทธิผลมากกว่าเดิมหลายเท่าตัว หรือแม้แต่การทำธุรกรรม ธุรกิจ โดยที่ไม่ต้องออกจากบ้านแม้แต่ก้าวเดียว โดยผมขอนำเสนอส่วนหนึ่งของเนื้อหาเกี่ยวกับภาวะผู้นำซึ่งขอสอดแทรกแนวคิดของผม ดังนี้ ครับ
ผลจากงานวิจัยจากสถาบันที่มีเชื่อเสียงระดับโลกหลายแห่งเห็นพ้องต้องกันว่า
“ภาวะผู้นำมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการเจริญเติบโต และความก้าวหน้าขององค์การ
และองค์การใดที่มีการพัฒนาภาวะผู้นำ ผลประกอบการย่อมดีกว่าองค์การที่ไม่มีการพัฒนาภาวะผู้นำ”
สำหรับปัจจัยที่ส่งผลต่อภาวะผู้นำที่ยั่งยืน มีดังนี้
1. พิจารณาผลกระทบต่อผู้อื่น เมื่อผู้นำแต่ละคนกระทำการบางอย่างลงไป สามาถทำได้โดยการ เอาใจเขา มาใส่ใจเรา
2. ใส่ใจการใช้ทรัพยากรขององค์การและการเพิ่มผลผลิต (Productivity) ผู้นำต้องคำนึงถึงความคุ้มค่า และการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง (Continuous Improvement) ไม่มีที่สิ้นสุด
3. ตอบแทนตามคำสัญญา สามารถทำได้โดยใช้หลักการกตัญญูรู้คุณ และระลึกถึงบุญคุณของสิ่งต่างๆ รอบตัวทั้งที่มีชีวิต และไม่มีชีวิต และรักษาคำพูด พูดกับใคร สัญญาเอาไว้อย่างไร ต้องทำให้ได้ ไม่ทำไม่ได้ ทำไม่ได้เราก็อย่าสัญญากับผู้อื่นเด็ดขาด
4. รับปากถึงการเปลี่ยนแปลงตนเองอย่างถาวร สามารถทำได้โดยไม่ทำแบบไฟไหม้ฟาง คือ ทำแป๊ปเดียวเลิก หรือทำตามกระแส ตามอารมณ์ ดังนั้นผู้นำต้องมีปณิธานที่แน่วแน่ มี Passion ความมุ่งมั่น ตั้งใจ ขยัน อดทน ไม่ลดละ และไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคต่างๆที่เข้ามา ใช้สติปัญญาแก้ไขปัญหา
จากข้อสรุปนี้ทำให้เราต้องฉุกคิด และหันกลับมาถามว่า “ ณ ปัจจุบัน หัวหน้างาน ผู้จัดการ และผู้บริหารในองค์การของเรานั้นมีภาวะผู้นำมากแค่ไหน?” และเราจะพัฒนาภาวะผู้นำให้กับหัวหน้างาน หรือผู้บริหารเหล่านั้นได้อย่างไร?” คำถามสองข้อนี้ อาจต้องใช้เวลาหลายวัน หรือหลายเดือนในการหาคำตอบ ซึ่งเอาไว้เดี๋ยวผมจะค่อยๆ นำแนวคิดมาแลกเปลี่ยนในบทความต่อๆไปครับ สุดท้ายขอฝากคมคิดสะกิดใจสั้นๆ ว่า “ความแตกต่างระหว่างผู้นำตัวจริง กับผู้นำตัวปลอมคือ ผู้นำตัวจริง แค่กระซิบเบาๆ ที่ข้างหูเบา คนก็ทำตามแบบถวายชีวิต ส่วนผู้นำตัวปลอม ตะโกนใส่หู จนคอแตก ก็ไม่มีใครได้ยิน” โชคดีนะครับ
ท่านสามารถอ่านบทความที่น่าสนใจอื่นๆ ได้ที่ www.bt-training.com