BT Magazine No.1
***********************************************************************************************
Date: 27/1/ 2564
เรื่อง ลดต้นทุน และเพิ่มประสิทธิผลของงาน
ตอนที่ 1 ทำไมเราต้องลดต้นทุน และเพิ่มประสิทธิผลของงาน
โดย ดร.ทองพันชั่ง พงษ์วารินทร์
-----------------------------------------------------------
สวัสดีครับทุกท่านผม ดร.ทองพันชั่ง พงษ์วารินทร์เจ้าของ Facebook Fanpage Managemenet GURU by Dr.Thong BT
วันนี้ผมมีเรื่องราวดีๆ มาเล่าสู่กันฟังครับ สำหรับวันนี้ผมขอนำเสนอเรื่องของการลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิผลการทำงาน (Cost Reduction and Effectiveness Improvement)โดยผมมีวัตถุประสงค์ 4 ประการ ดังนี้
หนึ่ง ต้องการจะแลกเปลี่ยนความรู้นะครับกับทุกๆท่าน
สอง เสนอแนวทางในการลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิผลของงาน
สาม นะครับแล้วก็สามารถเพิ่มสร้างแนวคิดในการที่เพิ่ม Productivity Mindset หรือกรอบคิดเรื่องการเพิ่มผลิตผลงานผลิต และ
สี่ เพื่อเสนอแนะแนวทางในการลดต้นทุน และเพิ่มผลิตภาพ ซึ่งผมจะนำความรู้ และ ประสบการณ์ที่ไปเป็นกรรมการตัดสินใครเซ็นยอดเยี่ยมของวิศวกรรมสถานแล้วก็ไปบรรยายให้กับหลายๆบริษัท มาแลกเปลี่ยนกับทุกท่านนะเพื่อให้สามารถนำความรู้ไปใช้การปฏิบัติงานได้จริงนะครับ
คำถาม “ทำไมเราต้องลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิผลของงานด้วยล่ะ” เพื่อหาคำตอบนี้ เรามาเรียนรู้จากกรณีศึกษา โดยเป็นการเปรียบผลการปฏิบัติงานของสองบริษัทที่มีการผลิต และดำเนินงานเหมือนกัน
บริษัทแรก บริษัทกไก่จำกัด มีรายได้ 10 ล้านบาท ต้นทุนทั้งหมดอยู่ที่ 8 ล้านบาท ซึ่งเกิดจาก ต้นทุนค่าแรง 5 ล้านบาท ต้นทุนค่าวัตถุดิบ 2 ล้านบาท ต้นทุนค่าโสหุ้ย 1 ล้านบาท ต้นทุนรวม 8 ล้านบาท เมื่อนำมาพิจารณากำไรจะได้ว่า รายได้ 10 ล้าน หัก ต้นทุน 8 ล้าน ก็จะได้กำไร 2 ล้าน/เดือน
ต่อไป บริษัทขอไข่ มีรายได้ 10 ล้านบาท
ต้นทุนรวม 6 ล้าน 1 แสนบาท (เกิดจากต้นทุนค่าแรง 3 ล้าน 5 แสนบาท ต้นทุนวัตถุดิบ 1 ล้าน 7 แสน บาท และต้นทุนค่าโสหุ้ย 9 แสนบาท รวมทั้งสิ้น 6 ล้าน 1 แสนบาท เมื่อนำมาพิจารณากำไร พบว่า รายได้ 10 ล้านบาท ลบด้วย
ต้นทุน 6 ล้าน 1 แสน ทำให้บริษัท ขอไข่ จำกัด จะได้กำไร 3 ล้าน 9 แสนบาท
เมื่อเปรียบเทียบผลการปฏิบัติงานของทั้งสองบริษัทจะพบว่า แม้รายได้เท่ากัน แต่ด้วยต้นทุนต่างกัน โดยต้นทุนของบริษัท ขอไข่ จกัดต่ำกว่า บริษัท กอไก่ จำกัด อยู่ 1 ล้าน เก้าแสนบาท จึงส่งผลทำให้บริษัท ขอไข่ มีกำไรสูงกว่า บริษัทกอไก่ จำกัด 1.9 ล้านบาทนั่นเอง
ต่อไปเราพิจารณาการปฏิบัติงานของทั้งสองบริษัทจะพบว่า บริษัท กอไก่ ต้นทุนสูงกำไรต่ำ เพราะ
1. ต้นทุนค่า พบว่า ต้นทุนค่าแรงสูงกว่าเนื่องจาก
1.1 พนักงานทำงานได้อย่างเดียว
1.2 พนักงานทำงานไม่เต็มประสิทธิภาพ
1.3 ปัญหาการรอคอยการว่างงานงานอยู่เสมอ การไหลของงานไม่ต่อเนื่อง การหยุดงานบ่อยๆ นะครับเดี๋ยวผลิตเดี๋ยวหยุด
2. ต้นทุนวัตถุดิบ
2.1 ใช้วัตถุดิบราคาสูงเกินความจำเป็น คืออาจจะใช้วัตถุดิบที่มันมีสเปคหรือคุณภาพที่สูงเกิน
2.2 ใช้วัตถุดิบวัตถุดิบไม่คุ้มค่า ใช้แบบทิ้ง ๆ ขว้าง ๆ มีระวัง หรือไม่ก็เกิดของเสียในกระบวนการผลิตจำนวนมาก ซึ่งเมื่อเกิดของเสียเราก็ต้องเอาวัตถุดิบเข้ามาใหม่เพื่อผมผลิตซ้ำ หรือนำมาแก้ไขในส่วนที่เสียไป Rework ซ่อมแซมด้วยวัตถุดิบนั้นเพราะฉะนั้นบริษัทนี้ต้นทุนวัตถุดิบสูงนะครับแล้วก็สุดท้าย
2.3 ต้นทุนค่าโสหุ้ยสูงเพราะการบริหารจัดการของหัวหน้าที่ไม่มีประสิทธิผล เช่นการวางแผนงานไม่ถูกต้อง การหยุดระหว่างการบ่อยครั้งทำให้การผลิตไม่ต่อเนื่อง ความไม่ชัดเจนในการสั่งงาน เป็นต้น
ต่อไปเรามาพิจารณาบริษัทขอไข่ จำกัด จะพบกว่า “ต้นทุนต่ำกำไรสูง” เพราะ
1. ลดต้นทุนค่าแรง ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้
1.1 พนักงานทำงานได้หลายหน้าที่ หรือทำงานได้มากกว่าหนึ่งตำแหน่ง หรือหนึ่งแผนก เช่น ตอนเช้าเขาทำหน้าที่ตรวจรับวัตถุดิบที่แผนก Incoming ตอนสาย ก็ไปประกอบสินค้าแทนเพื่อนที่ไม่มาที่แผนกประกอบ ตอนบ่ายไปช่วยบรรจุชิ้นงานลงกล่องที่แผนกสโตร์ เนื่องจากมีงานด่วนเข้ามา จะเห็นว่า คนหนึ่งคน สามารถทำงานได้มากกว่า หนึ่งแผนกอย่างนี้คุ้มจริงๆ มาทำ
1.2 พนักงานทำงานเต็มประสิทธิภาพ คือ ปฏิบัติงานตลอดเวลาที่ทำงาน ซึ่งอาจเป็นเพราะมีการวางแผนการผลิต และการบริหารจัดการการไหลของงานอย่างต่อเนื่อง และการที่พนักงานทีทัศนคติที่ดี มีความตั้งใจในการทำงาน เป็นต้น
2. ลดต้นทุนวัตถุดิบ ดังนี้
2.1 ใช้วัตถุดิบที่มีราคา และคุณภาพที่เหมาะสม คือไม่ไม่แพงเกินไปนะครับก็อยู่ในสเปคที่ลูกค้ารับได้แล้วก็อาจจะมีการประยุกต์ใช้ VA/VE Value analysis/Value Engineering มาช่วยเพิ่มประสิทธิผลของการใช้วัตถุดิบมากขึ้น
2.2 ใช้วัตถุดิบคุ้มค่า และไม่ทำให้เกิดของเสีย เริ่มตั้งแต่ไม่เบิก ไม่ใช้ ไม่เก็บ วัตถุดิบที่เกินความจำ จะเบิก จะใช้ จะเก็บก็แต่เฉพาะที่จำเป็น หรือตามปริมาณที่ต้องใช้จริง ๆ
3. ลดต้นทุนค่าโสหุ้ย โดยมีการบริหารจัดการที่ดี ตามแนวทาง PDCA และ POLC ได้แก่ มีการวางแผนอย่างรอบคอบ เตรียมวัตถุดิบ เครื่องจักร และพนักงานได้เหมาะสมกับงาน หัวหน้าทุกระดับก็มีภาวะผู้นำก็สามารถกระตุ้น จูงใจ แนะนำ ให้ลูกน้องปฏิบัติตาม และมีการควบคุม ติดตาม ประเมินผลอย่างเหมาะสม และเมื่อมีปัญหาก็ช่วยกันแก้ ช่วยกันไคเซ็น ค่อย ๆ ร่วมกันปรับปรุง และพัฒนา
จากที่อธิบายมาเราคงได้ทราบคำตอบของคำถามข้างต้นว่า “ทำไมต้องลดต้นทุน และเพิ่มประสิทธิผลของงาน” ซึ่งคำตอบที่สั้นที่สุดก็คือ “เพื่อความอยู่รอด และการสร้างกำไร และการเติบโตอย่างยั่งยืนนั่นเอง
ถึงเวลาแล้วละครับที่เราจะมาร่วมมือ ร่วมใจเพื่อช่วยกัน ลดต้นทุน และเพิ่มประสิทธิผลของงาน
สุดท้ายขอฝากคมคิดสะกิดใจที่ว่า ลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิผลของงานใครทำก่อน คนนั้นประสบความสำเร็จก่อน
ท่านสามารถติดตาม บทความ และคลิปวิดีโอ ได้ที่ www.bt-training.com
ดร.ทองพันชั่ง พงษ์วารินทร์
Mobile:0898118340 www.bt-training.com
Fb: Managemenet GURU by Dr.Thong BT
Youtube:Thongpunchang Pongvarin
********************************************