Easy 7QC Tools เครื่องมือที่ 5 แผนภูมิการกระจาย (Scatter Diagram)

ตอนที่ 2 โดย ทองพันชั่ง พงษ์วารินทร์ Email:tpongvarin@yahoo.com Mobile:089-8118340

facebook: Thongpunchang Pongvarin , BT-Corporation

******************************************************************************************************

สวัสดีครับทุกท่าน บทความเกี่ยวกับ ผังการกระจายในตอนที่แล้ว ท่านคงได้แนวคิด และหลักการกันไปบ้างนะครับ สำหรับบทความตอนนี้ผมขอนำเสนอการประยุกต์ใช้ผังการกระจาย เพื่อทำให้ท่านได้สามารถนำเทคนิควิธีการใช้เครื่องมือ ไปใช้กันจริงๆ พร้อมแล้วเรามาเริ่มศึกษากันเลยนะครับ

บริษัทผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์แห่งหนึ่งกำลังปวดหัวกับปัญหาชิ้นงานที่บางตัว มีความเหนียวที่เกือบจะต่ำกว่าค่าที่ลูกค้ากำหนด ดังนั้นหัวหน้าฝ่ายวิศวกรรมจึงได้ปรึกษากับ Supplier ที่ขายวัตถุดิบให้ ซึ่ง Supplier จึงได้นำเสนอสารเคมีชนิดหนึ่ง ซึ่งมีสรรพคุณช่วยเพิ่มความเหนียวให้กับชิ้นงานได้ หลังจากที่ได้รับสารเคมีตัวนี้มาแล้ว วิศวกรฝ่ายวิจัย และพัฒนา จึงได้นำสารเคมีดังกล่าวมาทดสอบ เพื่อยืนยันในสรรพคุณของสารเคมีชนิดนั้นที่ Supplier เสนอมาให้ โดยใส่สารเคมีในปริมาณที่แตกต่างกัน แล้วทำการทดสอบความแข็ง ของชิ้นงานในช่วงเวลานั้นๆ มาทั้งหมด 40 ข้อมูล ซึ่งผลดังตาราง

 ขั้นตอนที่ 1 เก็บรวบรวมข้อมูล โดยบันทึกข้อมูลที่ได้จากการทดสอบระหว่าง ความเหนียวของชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ กับ ปริมาณสารเคมีที่ใช้ 

ชิ้นที่	1	2	3	.....	40
ความเหนียว	140	200	130	.....	170
ปริมาณสารเคมี	35	48	49	.....	65

ขั้นตอนที่ 2 เขียนแผนผังการการจาย ดังรูป (ซ้ายมือ)(วิธีการเขียนผังการกระจาย ศึกษาเพิ่มเติมได้ที่ http://www.bt-training.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=539886514&Ntype=1) โดยกำหนดให้แกนตั้ง หรือแกน Y คือ ความเหนียว ส่วนแกนนอน หรือ แกน X คือ ปริมาณสารเคมีที่ใช้

ขั้นตอนที่ 3 พิจารณาความสัมพันธ์ของข้อมูล พบว่า n1=4   n2=16  n3=3 และ n4=17  ซึ่งถ้าเรานำข้อมูลทั้งสี่ มาพิจารณาจะพบว่า n1+n3 = 7 ซึ่งมากกว่า n2+n4 = 33 ดังนั้นจึงสรุปได้ว่า ปริมาณสารเคมีที่ใช้ มีความสัมพันธ์เชิงลบกับความเหนียวของชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ที่เราทดสอบ

ขั้นตอนที่ 4 คำนวนหาสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ หรือ r ซึ่งต้องใช้สูตรคำนวนครับ เอาไว้โอกาสหน้าจะนำมานำเสนออีกครั้ง หรือท่านอาจศึกษาเพิ่มเติมในเรื่องเกี่ยวกับ สถิติเพื่อควบคุมคุณภาพก็จะได้รายละเอียดเพิ่มมากขึ้นครับ ผลจากการคำนวนปรากฏว่าได้ค่า r เป็นลบ (r-) ซึ่งแสดงให้เห็นว่าคุณสมบัติทั้งสอง มีความสัมพันธ์ในทิศทางตรงกันข้าม

ขั้นตอนที่ 5 ทดสอบเพื่อความแน่นอน T (โดยใช้สูตรคำนวนอีกนั่นละครับ) ซึ่งจากการคำนวนพบว่าคุณสมบัติทั้งสอง มีความสัมพันธ์กันจริงๆ

หลังจากที่วิศวกรหนุ่มน้อย ปฏิบัติครบ 5 ขั้นตอนนี้แล้ว จึงโทรศัพท์กลับไปบอก Supplier ว่า “ขอโทษนะครับ สารเคมีที่คุณเสนอมา ไม่ผ่านการทดสอบครับ เพราะจากการตรวจสอบพบว่า สารเคมีดังกล่าว ไม่สามารถเพิ่มความเหนียวให้กับชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ของผมได้ ตรงกันข้าม อาจจะทำให้ความเหนียวที่มีปัญหาอยู่ในปัจจุบัน ทวีความรุนแรงอีกด้วยครับ”

 

จากบทความเรื่อง Easy 7QC Tools เครื่องมือที่ 5 แผนภูมิการกระจาย (Scatter Diagram) ทั้งสองตอน คงทำให้ท่านได้เห็นแนวคิดในการประยุกต์ใช้แล้วนะครับ ซึ่งถ้าหากเราจะพิจารณาก็จะพบว่าข้อมูลมีหลายแบบ (รูปขวามือ) เช่น 1. ความสัมพันธ์เชิงบวก 2. ความสัมพันธ์เชิงลบ 3. ไม่มีความสัมพันธ์ และ 4. มีความสัมพันธ์แบบไม่เป็นเชิงเส้น สุดท้ายขอฝากคมคิดสะกิดใจที่ว่า “ถ้าหากเราจะเชื่อสิ่งหนึ่งสิ่งใดแล้ว จงเชื่อเพราะความเป็นเหตุเป็นผล หรือเชื่อเพราะเราได้มีการพิสูจน์แล้ว มากกว่าเชื่อเพราะคนอื่นบอกให้เชื่อ หรือเขาเล่าว่า เลยเชื่อ เพราะถ้าเชื่อใครง่ายๆ เราอาจต้องมานั่งน้ำตาเช็ดหัวเข่าในไม่ช้าก็เป็นได้” โชคดีนะครับ

 ท่านสามารถอ่านบทความที่น่าสนใจอื่นๆ ได้ที่ www.bt-training.com

Facebook/fanpage: Thongpunchang Pongvarin , BT Corporation Co.,Ltd.