ทางออกของบริษัท เมื่อโดนคู่แข่งไล่บี้
โดย ทองพันชั่ง พงษ์วารินทร์ Email:tpongvarin@yahoo.com Mobile:089-8118340
facebook: BT CORPORATION CO., LTD. , Thongpunchang Pongvarin
สวัสดีครับทุกท่าน ผมขอส่งบทความมาชวนอ่าน โดยบทความนี้ได้แนวคิดมาจากการที่ผมได้ไปบรรยาย “หลักสูตร การสร้างจิตสำนึกคุณภาพ” ให้กับหลายบริษัท และบางบริษัทก็หลายรุ่น โดยไปถ่ายทอด แนวคิด ประสบการณ์จากหนังสือจิตสำนึกคุณภาพสร้างได้จริงใน 120 วัน เรามาอ่านกันเลยนะครับ
ก่อนอื่น ผมขอรบกวนให้ท่านลองนึกถึงเหตุการณ์นี้ แล้วค่อยๆ ตอบคำถามสัก 5 นะครับ
บริษัทของเรา และคู่แข่ง สามารถผลิตสินค้าที่มีคุณภาพสูง และสามารถให้บริการ ได้อย่างดีเยี่ยมพอๆ กันเพราะทั้งเราและคู่แข่ง ต่างก็ใช้เครื่องจักร เทคโนโลยี เหมือนๆ กัน ซื้อวัตถุดิบ จากซับพลายเออร์เจ้าเดียวกัน และยังทำระบบ ISO9001, ISO14001 หรือระบบบริหารงานต่างๆ เหมือนกันกับเราเป๊ะเลย
แต่... อะไรกับบริษัทของเราถ้าความแตกต่างระหว่างบริษัทของเรา กับคู่แข่งเป็นแบบนี้
1. คู่แข่งมีต้นทุนที่ต่ำว่าเรา อย่างน้อย 15%
2. คู่แข่งมีการผลิตของเสียน้อยกว่าเรา 30 % แต่สามารถผลิตของดีได้มากกว่าเรา 20%
3. คู่แข่งมีพนักงานที่มีจิตสำนึกด้านคุณภาพในการทำงานมากกว่า ขณะที่พนักงานของเรายังทำงานแบบไร้ซึ่งความตระหนัก และไม่สนใจในคุณภาพ
4. คู่แข่งมีการบริหารจัดการในการปฏิบัติงานที่ดีกว่า ขณะที่เรายังทำงานแบบล่าช้า ล้าหลัง เสียเวลา และมีความผิดพลาดสูง
5. คู่แข่งมีการปรับปรุง และพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่บริษัทของเรากำลังถอยหลัง หรือย่ำอยู่กับที่
สถานการณ์แบบนี้ ไม่ต่างอะไรกับการโดนไลบี้จากคู่แข่งให้ตกถนนสายธุรกิจจริงไหมครับ? เพื่อหาทางออกของปัญหานี้ ผมขอผมจะยกคำกล่าวของ ฟิลลิป คอตเลอร์ ซึ่งท่านปรมาจารย์ด้านการตลาดของโลก โดยท่านได้พูดเรื่องของ คุณภาพ และต้นทุน ไว้อย่างน่าสนใจว่า
“ถ้าหากบริษัทไม่ผลิตสินค้าที่มีคุณภาพสูง ก็ต้องขายสินค้าแก่กลุ่มรายได้ต่ำ หรือไม่ก็ออกจากธุรกิจไปในที่สุด คุณภาพของสินค้าจะเป็นใบเบิกทางที่ดีที่สุด ทว่าการที่มีสินค้าคุณภาพสูงอย่างเดียวไม่อาจทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้นได้ เพราะคู่แข่งก็ต้องมีคุณภาพสินค้าที่มีคุณภาพสูงเช่นกัน เพื่อชัยชนะ บริษัทต้องผลิตสินที่มีคุณภาพสูง แต่ต้นทุนต่ำกว่าคู่แข่งเราจึงจะอยู่รอด”
จากคำกล่าวนี้ทำให้เราสามารถสรุปได้ว่า
“ความสามารถสินค้าที่ผลิตได้มีคุณภาพสูง ด้วยต้นทุนที่ต่ำคู่แข่ง” เป็นแนวทางหนึ่งที่จะช่วยทำให้บริษัทของเราชนะในเกมส์การแข่งขันทางธุรกิจนี้ และยังเป็นแนวทางที่สำคัญที่จะช่วยสร้างขีดความสามารถในการแข่งขัน ให้เกิดขึ้นกับบริษัทของเราอีกด้วย สำหรับวิธีหนึ่งที่จะทำให้ทั้งสองแนวคิดนั้นเกิดขึ้นจริงกับบริษัทของเรา ก็คือ การทำให้พนักงานทุกคนในบริษัทมีจิตสำนึกคุณภาพ และมีความรู้สึกเป็นเจ้าของงานที่ตนปฏิบัติ ซึ่งเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างมาก โดยหัวข้อจิตสำนึก และความตระหนักด้านคุณภาพนี้ ระบบบริหารคุณภาพ ISO.9001 version ใหม่ล่าสุด ปี 2015 ได้ให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก
จากการศึกษาพฤติกรรมในการปฏิบัติงานของบุคลากรในองค์การในทุกระดับ ทำให้พบว่าองค์ประกอบที่เป็นปัจจัยหลักในการสร้างจิตสำนึกคุณภาพ และความเป็นเจ้าของงานได้แก่
1. ผู้บริหารระดับสูงของบริษัท (Top Management)
2. ผู้จัดการ และหัวหน้างาน (Manager/Supervisor/Foreman/Leader)
3. พนักงานผู้ปฏิบัติงาน (Operator)
4. สภาพแวดล้อมในการปฏิบัติงาน (Environment)
สำหรับแนวทางในการสร้างจิตสำนึกคุณภาพนั้นเชิญติดตามได้ในบทความต่อไปนะครับ ซึ่งผมจะนำแนวทางการสร้างจิตสำนึกคุณภาพ มาเปิดเผยให้ทราบแบบหมดเปลือก ซึ่งทุกท่านสามารถนำไปใช้งานได้จริงๆ และเห็นผลจริง เหมือนกับหลายๆบริษัทที่ได้นำแนวทางการสร้างจิตสำนึกคุณภาพสร้างได้จริงใน 120 วันของผมไปปฏิบัติครับ
สุดท้ายขอฝากคมคิดสะกิดใจสั้นๆ ว่า “ทางออกที่ดีที่สุดเมื่อคู่แข่งไล่บี้ คือ ผลิตสินค้าที่มีคุณภาพสูงที่สุด ด้วยต้นทุนที่ต่ำที่สุด โดยการบริหารจัดการที่ดีเยี่ยมที่สุด เพื่อความสำเร็จที่สูงที่สุดที่ทุกคนฝันเอาไว้” โชคดีนะครับ
ท่านสามารถอ่านบทความที่น่าสนใจอื่นๆ ได้ที่ Www.bt-training.com ครับ