คิดก่อนเชื่อ ดีกว่าเชื่อก่อนคิด
โดย ดร.ทองพันชั่ง พงษ์วารินทร์ Email:tpongvarin@yahoo.com Mobile:089-8118340 facebook: BT CORPORATION CO., LTD. ,
*****************************************************************************************************************************************************************************************************************
สวัสดีครับทุกท่าน บทความนี้ได้รับแรงบันดาลใจมากจากการอ่านหนังสือที่มีชื่อว่า “นิทานคติสอนใจของชาวจีน” ของสำนักพิพม์แสงดาว ซึ่งเรียบเรียงโดย สิริประภาวรรณ ในตอนที่มีชื่อว่า ทวนกับโล่เกราะ ผมขอขอบพระคุณ ณ โอกาสนี้มากๆนะครับ เรามาอ่านกันนะครับ
ในยุคข้อมูลข่าวสารมากมาย (Big Data) ดังเช่นในปัจจุบัน เวลาที่เราจะต้องการสืบค้นสิ่งใด อยากรู้เรื่องไหน หรือแม้แต่สูตรอาหาร เทคนิคการทำไข่เจียวให้อร่อยที่สุดในโลก เราก็สามารถทำได้อย่างรวดเร็วเพียงแค่ใช้ปลายนิ้วสัมผัสหน้าจอโทรศัทพ์ รูดไป กดมา แป๊ปเดียวข้อมูลแสดงออกมาเป็นร้อย เป็นพัน
อย่างไรก็ดี ข้อมูล ข่าวสารที่ปรากฏขึ้นมานั้น มีทั้งข้อเท็จจริง (Fact) และข้อเท็จไม่จริง หรือสิ่งหลอกลวง ดังนั้นถ้าหากเราจะเชื่อ หรือต้องการนำข้อมูลไปใช้ อย่าลืมคิด วิเคราะห์ และศึกษาให้ละเอียดถี่ถ้วนด้วยนะครับ ดังตัวอย่างคติสอนใจที่มีชื่อว่า ทวนกับโล่เกราะ ซึ่งสรุปความได้ดังนี้
มีชาวเมืองซูคนหนึ่ง เดินเร่ขายทวนกับโล่ โดยระหว่างที่เดินเร่ขายนั้นเขาตะโกนประกาศสรรพคุณของสินค้าทั้งสองเสียงดังลั่นจนชาวบ้านต้องหันมามองว่า
“โล่อันนี้แข็งแรงที่สุด ไม่มีสิ่งใดแทงทะลุได้”
คำพูดนี้ซึ่งชาวบ้านเริ่มสนใจ จากนั้นเขาก็ตะโกนโฆษณาอีกครั้งว่า
“ทวนอันนี้แข็งแรงที่สุด สามารถแทงทะลุทุกอย่างได้อย่างสบาย”
คำพูดนี้ทำเอาชาวบ้านงง และเกิดการถกเถียงกัน
ไม่นานก็มีชาวบ้านคนหนึ่งเกิดความสงสัย จึงตะโกนถามพ่อค้าว่า
“ข้าขอถามหน่อยนะว่า อะไรจะเกิดขึ้น ถ้าข้าเอาทวนที่ท่านป่าวร้องว่าแทงทะลุได้ทุกอย่าง ไปแทงโล่ที่ท่านบอกว่าไม่มีอะไรแทงผ่านได้”
พ่อค้าอึ้ง ทึ่ง นิ่ง เงียบ ไม่ตอบสิ่งใด
คติสอนใจนี้ทำให้เราได้เรียนรู้สองเรื่อง คือ
1. จุดจบของผู้ที่พูดเท็จ ซ้ำแล้ว ซ้ำเล่า หรือผู้ที่มักจะโกหกผู้อื่นจนเป็นนิสัย คือ การขาดความเชื่อถือ และการขาดความไว้วางใจ
2. ก่อนจะเชื่อสิ่งใดเราควรศึกษา หาข้อมูลต่างๆมาประกอบ โดยแยกแยะให้ได้ระหว่าง ข้อมูล (Data) ข้อเท็จจริง (Fact) และข้อเท็จไม่จริง หรือ ข้อมูลขยะ ไม่เกิดประโยชน์ จากนั้นก็มาคิดวิเคราะห์ (Analytical Thinking) หาเหตุผลต่างๆ มาประกอบ โดยคิดเป็นระบบ (Systematic Thinking) แล้วเชื่อมโยงข้อเท็จจริงต่างๆ ซึ่งถ้าทำได้แบบนี้จะทำให้เราสามารถตอบตัวเองได้ทันทีว่า “ทำไมเราถึงเชื่อ” และ “ทำไมเราถึงไม่เชื่อ”
จากคติสอนใจนี้ทำให้นึกถึงหลักกาลามะสูตร ที่พระพุทธองค์ได้ตรัสไว้ เกี่ยวกับการคิดก่อนที่จะเชื่อ สุดท้ายขอฝากคมคิดสะกิดใจสั้นๆว่า “ก่อนพูด เราเป็นนายคำพูด เมื่อพูดจบ คำพูด จะเป็นนายเรา” โชคดีนะครับ
ท่านสามารถอ่านบทความที่น่าสนใจอื่นๆ ได้ที่ Www.bt-training.com ครับ