คิดสักคิด ก่อนที่จะคิดหัวร้อน
โดย ดร.ทองพันชั่ง พงษ์วารินทร์ Email:tpongvarin@yahoo.com Mobile:089-8118340 facebook: BT CORPORATION CO., LTD.
ทุกวันนี้คงได้ยินคำว่าหัวร้อนกันบ่อยๆ โดยเฉพาะภาพข่าวทางโทรทัศน์ เพื่อระงับความเป็นคนหัวร้อน ผมจึงเขียนบทความเพื่อนำเสนอเทคนิคง่ายๆ ในการการลดความโกรธ แล้วตั้งสติ ก่อนที่จะระเบิดใส่ผู้อื่น โดยได้แนวคิดนี้มาจากการอ่านหนังสือชื่อ “ตึ่งนั้งก้าเกี้ย (คนจีนสอนลูก)” ของสำนักพิมพ์ เดอะบอสส์” ซึ่งผมขอขอบพระคุณมา ณ ที่นี้ครับ เรามาเรียนรู้ร่วมกันเลยนะครับ
ชายชาวแค้นซ่งสองคน ถกเถียงกันเสียงดังลั่นตลาด
“ข้าแก่ว่าเอ็งโว๊ย” ชายคนแรกตะโกนข่ม
“ข้าซิแก่กว่าเอ็ง ไอ้เด็กเมื่อวานซืน” ชายคนที่สองเถียงคอเป็นเอ็น
“ข้าซิแก่กว่าเอ็ง เพราะข้าเกิดในปีที่จักพรรดิ์เย้าประสูติ” ชายคนแรกรีบแสดงเหตุผล
“ข้าต่างหากที่แก่กว่าเอ็ง เพราะข้าเกิดในปีที่จักพรรดิ์อึ้งประสูติ” ชายคนที่สองพูดข่ม
ชายชราที่นั่งอยู่ใกล้ๆ รู้สึกรำคาญเสียงเอะอะ เอะตะโร ของชายทั้งสองเดินเข้าไปใกล้ๆ เพื่อจะเป็นกรรมการห้ามมวย ช่วยยุติปัญหา ก่อนที่ชายทั้งสองจะมีการลงไม้ลงมือกันเกิดขึ้น
เมื่อชายชราเดินเข้าไปถึง ชายสองคนนั้นก็หยุดเถียงกันครู่หนึ่ง เมื่อสบโอกาสชายชราก็ถามขึ้นว่า
“ท่านผู้เจริญทั้งสอง ท่านช่วยตอบข้าหน่อยได้ไหมว่า จักพรรดิ์เย้า และจักพรรดิ์อึ้ง ที่ท่านอ้างถึงนั่นน่ะ ประสูติในปีใดรึ”
ชายทั้งสองสบตากัน แล้วก็ตอบว่า “ข้าก็ไม่รู้เหมือนกัน”
“ถ้าอย่างนั้นอย่ามาเถียงกันให้อับอาย ขายหน้าชาวบ้านเขาอยู่เลย แยกย้ายกันไปเถอะ”
คำพูดของชายชรา ทำให้ชายทั้งสองรู้สึกเหมือนโดนก้อนอิฐก้อนมหึมา มากระแทกที่หัว เกิดมีสติขึ้นมาทันที แล้วหลังจากนั้นก็สัญญากันว่า จะไม่มาทะเลาะกันด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่องอีกเลย ...
ถ้าหากเรานำนิทานเรื่องนี้มาวิเคราะห์กับคนในองค์กร ก็จะพบว่ามีบางครั้งที่ตัวเรา หรือพนักงานบางคน หรือบางกลุ่ม ทะเลาะกัน เกลียดกัน ไม่ชอบขี้หน้ากัน เหม็นหน้ากัน ไม่อยากทำงานร่วมด้วย มีอคติต่อผู้อื่น ทั้งๆที่ยังไม่รู้เลยว่าทำไม หรือเหตุผลที่แท้จริงที่เราไม่ชอบเขา หรือเกลียดเขานั่นเป็นเพราะอะไรกันแน่? แต่เราก็รู้สึกทางลบกับเขาไปแล้ว ซึ่งความรู้สึกที่ไม่ดีที่เกิดขึ้นเหล่านั้นอาจเกิดจากฟังคนอื่นพูด ตัดสินผู้อื่นเร็วเกินไปทั้งๆที่ยังไม่รู้จักเขาดีพอ ไม่เคยเปิดใจที่จะฟังคนอื่น เป็นต้น และเมื่อเรารู้สึกลบแบบนี้ เราก็จะแสดงออกโดยการหลีกเลี่ยง ไม่อยากไปสุงสิง หรือแสดงปฏิกิริยาตอบโต้ในเชิงลบ เช่น ต่อต้าน พูดจาเหน็บแนม เยาะเย้ย ถากถาง ใส่ร้ายป้ายสี หรือที่ร้ายที่สุดคือทำร้ายเขาเลย ก็อาจเป็นได้จริงไหมครับ?
จะดีกว่าไหม ถ้าเราลองให้เวลากับตัวเอง เพื่อทบทวนตนเอง ก่อนที่จะตัดสินว่าใครเป็นอย่างไร? หรือคิดให้ดี คือ คิดให้รู้ถึงสาเหตุที่แท้จริงว่า เราทำอะไร เขาทำอะไร เราทำผิดอะไร เขาทำผิดอะไร ก่อนที่จะทะเลาะกับผู้อื่น เพื่อตั้งสติ และตอบคำถามให้ได้ 7 ข้อ ดังนี้
1. “สาเหตุที่แท้จริงที่ทำให้เราต้องไปทะเลาะกับเขาน่ะ มันคือะไรกันแน่?”
2. “เราได้อะไรจากการทะเลาะกับผู้อื่น”
3. “คนอื่น เช่น พ่อ แม่ พี่ น้อง สามี ภรรยา ลูก และญาติของเรา พวกเขาเขาจะรู้สึกอย่างไร? เขาจะเห็นด้วยกับเราหรือไม่? เมื่อเราไปทะเลาะกับเขา”
4. “คนรอบข้างที่จะลุกขึ้นมายืนมุงดูเมื่อเราไปทะเลาะกับคนอื่นเขาจะรู้สึกอย่างไร? สะใจ สนุก หรือ??? ”
5. “เราได้รับชัยชนะจากการทะเลาะกันแล้วเราได้อะไร?”
6. “คนที่เขาทะเลาะกับเราแล้วเขาแพ้ เขาจะรู้สึกอย่างไร? เขาจะอายไหม เขาจะเสียหน้า เขาจะทำงานที่นี่ต่อไปได้ไหม เขาจะแค้นเราไหม เขาจะอาฆาตเราไหม?”
7. “มันคุ้มกันแล้วเหรอที่จะไปทะเลาะกับคนอื่น?”
ทั้ง 7 ข้อนี้ ผมขอเรียกว่า “คำถามเพื่อเรียกสติให้กลับคืนมา” ลองนำไปประยุกต์ใช้ดูนะครับ รับรองได้จะช่วยลดอาการหัวร้อน แล้วเรียกสติให้กลับคืนมา ก่อนที่จะแสดงออกในสิ่งที่ไม่ดีๆ ออกไป สุดท้ายขอฝากคมคิดสะกิดใจที่ว่า “ใจเย็น เป็นสุข ใจร้อน รับทุกข์” โชคดีนะครับ.........
ท่านสามารถอ่านบทความที่น่าสนใจอื่นๆ ได้ที่ Www.bt-training.com ครับ